อยากจะเวิ่นเรื่องวงการเพลง .. คิดถึงวงการเพลงสมัยก่อน

25570220-183923.jpg

25570220-183940.jpg
(รูปเอาของร้านขายเทปเก่ามา ไม่ได้ถ่ายเองค่ะ)

คิดถึงบรรยากาศวงการเพลงยุคก่อนๆ
เวลาแต่ละเพลงออกมา กว่าจะออกมาได้ช่างยากเย็น

– ทั้งขั้นตอนการผลิต เพราะเครื่องมือยังไม่ดีขนาดตอนนี้ ชนิดที่ว่าต้องนั่งตัดเทปแปะให้เสียงต่อกันก็มี (ฟังพี่ๆเขาเล่ามา) อาชีพโปรดิวเซอร์ฟังดูห่างไกลไม่มีวันได้สัมผัสมากๆ ติ่งอย่างเรามองว่าโคตรเท่ ซื้อเทปมาต้องเปิดดูชื่อคนแต่งตลอดเลย

– ศิลปินแต่ละคน กว่าจะได้ออกเพลง ต้องมีดวงจริงๆนะ ถึงจะได้เข้าตาแมวมอง โปรดิวเซอร์ แล้วยังต้องคัดแล้วคัดอีกเพราะจำนวนศิลปินที่จะผลิตมีน้อย แต่ถ้าได้ออกแล้ว พลิกชีวิตแน่นอน สมัยก่อนแฟชั่นก็ยังไม่ก้าวไกล ใส่กันแต่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ พอศิลปินใส่อะไร ก็เป็นที่จดจำ ใส่ตามได้ก็ใส่ แฟชั่นที่น่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่สุดคงไม่พ้น ทาทายัง ผมทรงสับปะรด กับเสื้อตัวเล็ก กางเกงหลวม

– พอจะออกอัลบั้มที ค่ายก็โปรโมททุกสื่ออย่างทุ่มเทมาก จำนวนเพลงที่โปรโมตก็ไม่มากนัก โดยเริ่มจากปล่อยทีเซอร์ทางรายการเพลง(ดึกๆ) ออกมาให้คนดูตกใจก่อน แล้วก็ตามมาด้วยปล่อยเพลงในวิทยุ และ MV แฟนเพลงอย่างเราก็ต้องรอดู รอฟัง อยากฟังมากก็ต้องโทรไปขอเพลง ไม่ใช่จะอยากฟังเมื่อไหร่ก็เปิดในเน็ตเอาได้ แต่ละเพลงก็จะดังนาน ฟังวนเวียนกันจนขึ้นใจ ความรู้สึกตอนที่รอฟังเพลงที่ชอบ เป็นความรู้สึกที่คลาสสิคมากๆ

– การวางขายเป็นเทป 10 เพลง ทำให้เราต้องฟังทุกเพลง (กรอบ่อยเทปยาน – ต้องใช้ปากกาเรโนลด์เท่านั้นนะ) โปรดิวเซอร์จะต้องจัดลำดับเพลงให้สลับอารมณ์ ให้ฟังไม่เบื่อ เพลงหน้าบีหลายเพลงเพราะมากแต่ไม่ดัง แต่มันก็ทำหน้าที่ของมัน ในการทำให้หน้าบีมีคุณค่าไม่น่าเบื่อ สิ่งนึงที่แฝงอยู๋ในเทป คือการทำให้เราใจเย็น รู้จักรอฟังเพลงที่ชอบให้มาถึง และทำให้เราได้ฟังบางเพลงที่เราอาจจะไม่ได้สนใจในตอนแรก แล้วพบว่ามันก็เพราะดีนะ

– เทป เป็นของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจของแฟนเพลง แถมยังเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัท คนทำเพลง และศิลปิน ได้รับต่าตอบแทนตามสมควร ไม่ต้องมาถูกละเมิดกันแบบทุกวันนี้ ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นเหตุหนึ่งที่บริษัทสามารถทุ่มทุน นักแต่งเพลงสามารถปั้นเพลงเป็นปีกว่าจะเสร็จ โดยไม่ต้องพะวงว่าจะอดตายเหมือนปัจจุบันที่ต้องทำปริมาณมากขึ้น จนหลายคนถอดใจที่จะปราณีตกับมัน ยุคถูกละเมิด มันค่อยๆเริ่มมาตั้งแต่มีซีดี และคนเริ่มริบซีดีกันเป็น

– ศิลปินยุคก่อนจะถูกเก็บตัว หาตัวตามห้างไม่ได้ ไม่สามารถเข้าถึงด้วยการตามอินสตาแกรม อยากสื่อสารอะไรก็ส่งจดหมายไป ถ้าได้รับจม.ตอบคือโคตรฟิน ใครอยากฟังเขาพูดคุยต้องดูรายการที่ไปออก อยากรู้เรื่องราวต้องซื้อนิตยสาร ไม่สามารถหาอ่านในเน็ตได้ง่ายๆแบบทุกวันนี้ เมื่อศิลปินมีแวลูมาก ธุรกิจเพลงก็มีมูลค่าตามไปด้วย

– คอนเสิร์ตใหญ่ ศิลปินแทบทุกคนต้องมี มันเป็นความฟินของแฟนๆ ที่ได้ไปอยู่ในฮอล ยิ่งถ้าได้เกาะขอบ แล้วศิลปินปาดมือมาโดนจะฟินมาก บางงานมีโยนของแจก ใครได้ไปนี่ตัวลอยนะ

– ยุคก่อนยังไม่มีนักเลงคีย์บอร์ด ที่คอยด่า บั่นทอนจิตใจศิลปินและคนทำงาน ไม่มีการดราม่า ใครชอบอะไรก็ไปฟัง ไปฟินอันนั้น มีความสุขดี

เวิ่นแค่นี้ก่อน อิจฉาพี่ๆที่ได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศในยุคนั้น แต่ก็ ถ้าเราอยู่ในยุคนั้น เราคงความสามารถไม่พอที่จะได้เข้ามาทำงานเบื้องหลังหรอก ฮ่าๆๆ หนูชื่นชมพี่ๆที่ทำงานมายาวนานนะคะ ดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่ๆหลายคนที่เล่าประสบการณ์เท่โคดๆให้ฟัง วันนี้วงการเพลงปัจจุบันพี่คงทำงานลำบากกว่าเดิม สู้ๆนะคะ 😀